การจัดจำหน่ายในรุ่นที่ 3 ของ อีซูซุ ดีแมคซ์

ISUZU D-MAX รุ่นที่ 3 ได้ทำการเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2562 พร้อมคำขวัญว่า พลานุภาพพลิกโลก ซึ่งมีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย 5 เกรด 2 เครื่องยนต์ ดังนี้

เครื่องยนต์

ISUZU D-MAX ในรุ่นที่ 3 มีเครื่องยนต์ 2 รุ่น คือ

  • เครื่องยนต์ RZ4E-TC GEN2 ขนาด 1,898 ซีซี (1.9) พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGS และอินเตอร์คูลเลอร์ มีพละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 - 2,600 รอบ/นาที รองรับมาตราฐานไอเสีย EURO 6 มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
  • เครื่องยนต์ 4JJ3-TCX ขนาด 2,999 ซีซี (3.0) พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบไฟฟ้า Electronic VGS และอินเตอร์คูลเลอร์ มีพละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,600 รอบ/นาที มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

รุ่นย่อยและเกรด

รุ่น Spark

เป็นรุ่นมาตรฐาน ห้องโดยสารตอนเดียว เหมาะสำหรับเป็นรถกระบะบรรทุก

  • Cab-Chassis : เป็นเกรดล่างสุด มีแต่หัวเก๋ง ไม่มีกระบะ เป็นรถที่เหมาะสำหรับนำไปต่อกระบะพื้นเรียบหรือตู้เย็น มาพร้อมเครื่องยนต์ 1,900 CC และ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มือจับภายในห้องโดยสาร 1 ตำแหน่ง , ความปลอดภัยทั้งเบรก ABS EBD BA และแอร์แบ็คคู่หน้า เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
  • B : เป็นเกรดรองท็อป สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น Cab-Chassis คือเครื่องเสียง และไฟท้ายแบบมาตรฐาน นอกเหนือนั้น จะมาพร้อมกระบะด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นเกรดล่างสุดที่เป็นรุ่นพร้อมกระบะ
  • S : เป็นเกรดท็อป ซึ่งมีเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เป็นรุ่นย่อยเพิ่มขึ้นมา สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น B คือระบบเซ็นทรัลล็อก และระบบ ESS ส่วนรุ่น 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมาพร้อมกับล้อเหล็ก 16 นิ้ว และมือจับภายในห้องโดยสาร 3 ตำแหน่ง

รุ่น Spacecab และ Cab 4

เป็นรุ่น 2 ประตู ห้องโดยสารตอนครึ่ง แค็บเปิดได้ ส่วน Cab 4 เป็นรุ่น 4 ประตู ห้องโดยสาร 2 ตอน โดยอุปกรณ์มาตรฐานยังคงเหมือนกับ Spacecab อยู่หลายประการ เพียงแต่มีบางเกรดเท่านั้นที่แตกต่างออกไป

  • S : เกรดล่างสุดสำหรับ Spacecab และ Cab4 มาพร้อมเครื่องยนต์ 1,900 CC และ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด , ล้อเหล็ก 15 นิ้ว , มือจับภายในห้องโดยสาร 3 ตำแหน่ง , ความปลอดภัยทั้งเบรก ABS EBD BA และ แอร์แบ็คคู่หน้า เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่น Cab 4 เบาะนั่งด้านหลัง พร้อมเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 5 ที่นั่ง พนักพิงพับลงมาได้ และสามารถแยกพับอิสระ 60 : 40 ยกแขวนได้
  • L : เป็นเกรดกลาง สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น S คือล้ออัลลอย 16 นิ้ว , ไฟตัดหมอก , กระจังหน้าโครเมียม , การเชื่อมต่อ Bluetooth , กุญแจรีโมทคอนโทรล , ไฟตัดหมอกคู่หน้า และ ไฟ Daytime Running Light
  • L DA : เป็นเกรดรองท็อป สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น L คือหน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมรองรับ Apple CarPlay / Android Auto และกล้องมองภาพขณะถอยจอด
  • Z : เป็นเกรดท็อป สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น L DA คือล้ออัลลอยแบบทูโทน 16 นิ้ว , มาตรวัด Super Vision พร้อมจอแบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว , ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED , ลำโพง 8 ตำแหน่ง , ระบบความปลอดภัย ESC TCS HSA HDC และกุญแจ Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย

รุ่น Hi-Lander

เป็นรุ่นที่เหมือนกันกับรุ่น Spacecab และ Cab 4 แต่รุ่นนี้ จะเป็นชนิดรถกระบะขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง

  • L : เกรดล่างสุดสำหรับตัวยกสูง มาพร้อมเครื่องยนต์ 1,900 CC และ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด , ล้ออัลลอย 17 นิ้ว , มือจับภายในห้องโดยสาร 7 ตำแหน่ง และความปลอดภัยทั้งเบรก ABS EBD BA , แอร์แบ็คคู่หน้า , กุญแจรีโมทคอนโทรล เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่น Cab 4 Hi-Lander เบาะนั่งด้านหลัง พร้อมเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 5 ที่นั่ง พนักพิงพับลงมาได้ และสามารถแยกพับอิสระ 60 : 40 ยกแขวนได้
  • L DA : เป็นเกรดล่าง สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น L คือหน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมรองรับ Apple CarPlay / Android Auto และกล้องมองภาพขณะถอยจอด
  • Z : เป็นเกรดกลาง สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น L DA คือล้ออัลลอย 18 นิ้ว , มาตรวัด Super Vision พร้อมจอแบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว , ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED , ลำโพง 8 ตำแหน่ง , ระบบความปลอดภัย ESC TCS HSA HDC , ระบบ Cruise Control และกุญแจ Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย
  • ZP : เป็นเกรดรองท็อป สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น Z คือล้ออัลลอยแบบทูโทน 18 นิ้ว , ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry พร้อม Push Start Button , ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone , หน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 9 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง และเบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • M : เป็นเกรดท็อป สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น ZP คือกระจังบังลมหน้า IR Cut ป้องกัน UV-A / UV-B , ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ , Engine Remote Start , มือจับภายในรถ 8 ตำแหน่ง , เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง , ระบบ Blind Spot Monitor พร้อม Rear Cross Traffic Alert และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง

ในรุ่น Z และ ZP จะมีรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด REVTRONIC พร้อมระบบ Idling Start/Stop System เป็นรุ่นย่อย (ยกเว้นรุ่น ZP ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร) ส่วนในรุ่น M จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และในรุ่น ZP และ M จะมีรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เป็นรุ่นย่อย

รุ่น V-Cross

เป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มีทั้ง 2 ประตูและ 4 ประตู โดยอุปกรณ์มาตราฐานนั้นเหมือนกับ Hi-Lander เพียงแต่เพิ่มระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพิ่มราวหลังคา ซึ่ง V-Cross จะจำหน่ายเฉพาะเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรเท่านั้น

  • Z : เกรดล่างสุดสำหรับตัว V-Cross มาพร้อมเครื่องยนต์ 3,000 CC และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด , ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Terrain Command พร้อมระบบล็อคเฟืองท้าย , ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว , มือจับภายในห้องโดยสาร 7 ตำแหน่ง , หน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมรองรับ Apple CarPlay / Android Auto พร้อมกล้องมองภาพขณะถอยจอด , ความปลอดภัยทั้งเบรก ABS EBD BA , ระบบ ESS ESC TCS HSA HDC , แอร์แบ็คคู่หน้า , ระบบ Cruise Control และกุญแจ Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
  • ZP : เกรดรุ่นรองท็อป สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น Z คือระบบกุญแจ Smart Keyless Entry พร้อม Push Start Button , ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone , หน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 9 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง และเบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • M : เกรดรุ่นท็อป สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น ZP คือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด REVTRONIC พร้อมระบบ Idling Start/Stop System , กระจังบังลมหน้า IR Cut ป้องกัน UV-A / UV-B , ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ , Engine Remote Start , มือจับภายในรถ 8 ตำแหน่ง , เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง , ระบบ Blind Spot Monitor พร้อม Rear Cross Traffic Alert และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง

ในรุ่น ZP และ M จะเป็นรุ่น 4 ประตูเท่านั้น